เพลงลุงม่วม- จากพระเอกหนังสั้นสู่การเขียนเพลงของ สุเวศน์ ภู่ระหงษ์

            "ลุงม่วมจริงๆแล้ว ผมไม่รู้เรื่องคือ อยู่ๆทาง โรงพยาบาลรามา มีโครงการเ็ด็กไืทยปลอดภัย ซึ่งเด็กๆคิดทำเรื่องลุงม่วมขึ้นมา  คิดพล็อตเรื่องนี้ขึ้น แล้วติดต่อ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ไปแสดงหนังสั้นเรื่้องนี้

 
            "เฮ๊ย ต้องเป็นพระเอกนะ ถึงจะเล่น" สุเวศน์ ภู่ระหงษ์บอก


            เด็กก็บอกเป็นพระเอกเลย พอถึงเวลาถ่ายทำ เด็กไม่เคยเอาบทมาให่ดู ซึ่งเด็กก็พึ่งเริ่มต้นหัดทำ เรียนรู้ไปด้วย ทำเป็นหนัง สื่อการเรียนการสอน ความจริง ถ้าเอาบทมาให้"สุเวศน์ ภู่ระหงษ์"อ่าน ก็จะเข้าใจ และแสดงได้ดี ซึ่งในช่วงการถ่ายทำ เด็กจะบอกบทให้แสดงแบบไหน แบบสดๆในตอนนั้น แสดงมาจนถึงฉากสุดท้าย "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" จึงรู้ว่า แสดงเ็ป็นใคร แสดงเพื่ออะไร สื่ออะไีร หลังจากถ่ายทำเสร็จแล้ว ขึ้นมาที่ห้องของ ม.มหิดล ก็มาฟังเรื่องราว จนฉุกคิด แล้วบอกกับ ไก่ แมลงสาบว่า เฮ้อ ทำแบบนี้ ไม่เกิดว่ะ งานนี้ งั้นเดี๋ยวไปใส่คอร์ดดนตรีนะ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์"แต่งเพลงนี้ขึ้นมาสดๆ เมื่อเริ่มเข้าใจเรื่องราวแล้ว

            "สงสารลุงม่วมไหม
            สนใจลุงหรือเปล่า
            หัวใจลุงปวดร้าว..."

            เนื้อเรื่องคือ ลุงม่วมซึ่งแก่แล้ว เขามีูลูกชายคนเดียว วันหนึ่ง ลูกชายตกน้ำ แล้วเขาก็ว่ายน้ำไม่เป็น ไ่ม่สามารถจะลงไปช่วยลูกได้ จนกระทั่งลูกตายไป จึงนำเนื้อหาเรื่องราวเอามาเขียนบทเพลงนี้

            "....ในเรื่องราวภายหลังจากลูกชายตายแล้ว ผมจะเสียใจมาก ประสาทเบลอ ไปถ่ายทำฉากแรกที่มหิดล คนถ่ายจะตัดต่อเป็นช็อตๆ มาถ่ายที่ตลาดศาลายา ผมก็แสดงอินมาก ขี่จักรยานเข้าไปในตลาดศาลายา ทำเป็นคนเบลอ คนบ้า ให้เค้าเก็บภาพตลาด คนในตลาดคิดว่า บ้าจริงๆ พอถ่ายทำจบ ผู้กำกับบอก ผ่านทั้งหมด .เฮ้ ดีใจ เสร็จซะทีโว้ย พอภาพปกติกลับมา แม่ค้าบอก เฮ๊ย แกไม่ได้บ้านี่"



            "้ถ้าเค้าให้บทผมมา และปรึกษาผมนะ ผมจะแสดงได้ดีกว่านั้น.."

            เมื่อเข้าใจเนื้อหาของหนังสั้นแล้ว สุเวศน์ ภู่ระหงษ์บอกต้องมีเพลงประกอบและเริ่มเขียนเดี๋ยวนั้นเลย ซึ่งในโปรแกรมถ่ายทำ ไม่มีเพลง สุเวศน์ ภู่ระหงษ ทำเองสำหรับเพลงประกอบภาพ ซึ่ง มิวสิควิดีโอที่เห็นนี้ เป็นการเพิ่มภาพ+เนื้อหาเข้าไป ให้ลุงสิงหาทำให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น