หากผลงานเปรียบเสมือนต้นไม้ที่ให้ดอกผล ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเติบโตก้าวหน้าตามวันเวลาที่ผ่านไป การทำงานทุกอย่างก็เ่ช่นกัน ผลงานที่ได้ย่อมนำมาขยายผลได้ เช่นเดียวกับผลไม้ที่มีเมล็ด ที่พร้อมจะเติบโตเป็นต้นกล้า เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
หลังจากที่กลุ่มดินรักษ์ฟ้า เดินทางมาทำสกู๊ป ค้นคนดีของพ่อหลวงในช่วง 18-19 มิถุนายน 2554 ทำให้ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" รู้จักและเข้าใจถึงเป้าหมายและรูปแบบการทำงานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ได้มองไกลต่อไปถึงวันข้างหน้าว่า กลุ่มคนที่มีความตั้งใจที่ดีอย่างนี้ ควรที่จะส่งเสริมบ่มเพาะให้เติบโต เพิ่มจำนวนคนที่มีความคิดตรงกัน ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในลักษณะนี้บ้าง
เมื่อมีเมล็ดพันธุ์ที่ดี ก็ต้องนำไปไว้ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อใ้้ห้เิกิืดต้นกล้าใหม่ ขยายพันธุ์เติบโตเป็นไม้ใหญ่ ทดแทนไม้รุ่นเก่าต่อไปในอนาคต
เมล็ดพันธุ์ที่ดีของดินรักษ์ฟ้า คือ ความคิดและเจตนาที่ดีั "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ได้นำเรื่องราวของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าไปพูดคุยแนะนำให้ ผอ.โรงเรียน และผู้ที่ถูกคัดเลือกว่า มีแนวคิดตรงกัน และได้นำผลงานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าเช่น ภาพถ่ายของในหลวง ไปใช้ในการเป็นวิทยากร เจาะกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความสนใจและอยากเข้าร่วมกิจกรรมกับดินรักษ์ฟ้า
กลุ่มเป้าหมายที่ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" เข้าไปนำร่องแนะนำไว้ ตั้งแต่ปลายมิถุนายน 2554 คือ เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ , โรงเรียนเทศบาลและกลุ่มเยาวชน โดยกระตุ้นให้เกิดความสนใจ อย่างเช่น การรับปากกับกลุ่มเยาวชนว่า จะช่วยแต่งเพลงของกลุ่มให้ แต่ต้องเป็นคนดี, รักในหลวง, นำเพลงกลุ่มดินรักษ์ฟ้าไปร้อง และร่วมกิจกรรมกับกลุ่มดินรักษ์ฟ้าในโอกาสที่เหมาะสม
แนวคิดขยายงาน สร้างคนในแบบของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" อยากจะสร้างคนให้มีคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ ถ้ามากเกินไปแต่ขาดคุณภาพ ก็ไม่ดี ซึ่งการไปพดให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มดินรักษ์ฟ้านั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำงานเพื่อสังคมในช่วงเวลาที่ผ่านมาของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ที่หลายคนเข้าใจและเชื่อมั่นในความตั้งใจและมุ่งมั่นในการทำงาน เมื่อไปแนะนำข้อมูลของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ทำให้เกิดการเปิดรับทันที โดยได้ให้ข้อมูลและทาบทามเข้าร่วมกิจกรรมกับดินรักษ์ฟ้า เพื่อให้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน เป็นการสร้างรูปแบบและมาตรฐานการทำงานต่อไป เป็นการพัฒนาึคนเก่า สร้างคนใหม่ และได้ศึกษารูปแบบการทำงานร่วมกัน อันจะทำให้การขยายงานและสร้างคนใหม่ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment